อาการและอาการแสดง
กรณีที่ 1 การเฝ้าระวังที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศอุณหภูมิร่างกายตั้งแต่37.3 องศาเซลเซียสขึ้นไป หรือ มีอาการอย่างน้อยหนึ่งอาการดังต่อไปนี้ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก
ปัจจัยเสี่ยง
มีประวัติเดินทางไปยัง หรือ มาจากต่างประเทศ ทุกเที่ยวบิน/ทุกช่องทางระหว่างประเทศ
มาตรการการกักกันกรณีตรวจไม่พบเชื้อ
กักกันตามมาตรการ
อาการและอาการแสดง
กรณีที่ 1 การเฝ้าระวังที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศอุณหภูมิร่างกายตั้งแต่37.3 องศาเซลเซียสขึ้นไป หรือ มีอาการอย่างน้อยหนึ่งอาการดังต่อไปนี้ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก
ปัจจัยเสี่ยง
มีประวัติเดินทางไปยัง หรือ มาจากต่างประเทศ ทุกเที่ยวบิน/ทุกช่องทางระหว่างประเทศ
มาตรการการกักกันกรณีตรวจไม่พบเชื้อ
กักกันตามมาตรการ
อาการและอาการแสดง
กรณีที่ 2 การเฝ้าระวังในผู้สงสัยติดเชื้อ/ผู้ป่วย
กรณีที่2.1 ผู้สงสัยติดเชื้อที่มีอาการ ได้แก่อาการอย่างน้อยหนึ่ง อาการดังต่อไปนี้ให้ประวัติว่ามีไข้/วัดอุณหภูมิกายได้ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก
ปัจจัยเสี่ยง
1) 14 วันก่อนวันเริ่มป่วย มีประวัติอย่างน้อยหนึ่งอย่าง ดังต่อไปนี้
1.1) เดินทางไปยัง/มาจาก/หรืออยู่อาศัย ในประเทศที่มีการรายงานโรคในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา
1.2) สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
1.3) ไปในสถานที่ชุมนุมชน หรือสถานที่ที่มีการรวมตัวของกลุ่มคน เช่น ตลาดนัดห้างสรรพสินค้า สถานพยาบาล หรือ ขนส่งสาธารณะ ที่พบผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา
1.4) ปฏิบัติงานในสถานกักกันโรค
2) แพทย์ผู้ตรวจรักษาสงสัยว่าเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
มาตรการการกักกันกรณีตรวจไม่พบเชื้อ
- กักกันตามมาตรการ
ในกรณี1.1) ทุกกรณี
1.2) และ 1.3) กรณีที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของผู้ป่วยยืนยัน
- กรณีอื่นๆ ดูแลรักษาตามแนวทางเวชปฏิบัติของโรคที่เป็น
อาการและอาการแสดง
กรณีที่2.2 ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ
ปัจจัยเสี่ยง
มีลักษณะอย่างน้อยหนึ่งอย่าง ดังต่อไปนี้
1) อาการรุนแรง ใส่ท่อช่วยหายใจ หรือเสียชีวิต
2) ไม่ทราบสาเหตุ หรือ หาสาเหตุไม่ได้ภายใน 48 ชั่วโมง
3) แพทย์ผู้ตรวจรักษาสงสัยว่าเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
มาตรการการกักกันกรณีตรวจไม่พบเชื้อ
ดูแลรักษาตามแนวทางเวชปฏิบัติของโรคที่เป็น
อาการและอาการแสดง
กรณีที่ 3 การเฝ้าระวังในบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุขอาการอย่างน้อยหนึ่งอย่างดังต่อไปนี้ให้ประวัติว่ามีไข้/วัดอุณหภูมิกายได้ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้ กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก
ปัจจัยเสี่ยง
ปฏิบัติหน้าที่ในสถานบริการสาธารณสุข เช่น โรงพยาบาล คลินิก โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) สถานที่ตรวจทางห้องปฏิบัติการ ร้านขายยา หรือเป็นสมาชิกทีมสอบสวนโรค หรือ ปฏิบัติงานในสถานที่กักกันโรค โดยพิจารณาตามความเหมาะสม
มาตรการการกักกันกรณีตรวจไม่พบเชื้อ
ดูแลรักษาตามแนวทางเวชปฏิบัติของโรคที่เป็น
อาการและอาการแสดง
กรณีที่ 4 การเฝ้าระวังผู้มีอาการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจเป็นกลุ่มก้อน ผู้มีอาการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจเป็นกลุ่มก้อน (cluster) ตั้งแต่ 5 รายขึ้นไป ในสถานที่เดียวกัน
ปัจจัยเสี่ยง
เป็นกลุ่มก้อนในสถานที่และ ช่วงสัปดาห์เดียวกัน โดยมีความเชื่อมโยงทางระบาดวิทยา
มาตรการการกักกันกรณีตรวจไม่พบเชื้อ
ดูแลรักษาตามแนวทางเวชปฏิบัติของโรคที่เป็น
29 มกราคม 2564
อาการและอาการแสดงกรณีที่ 1 การเฝ้าระวังที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศอุณหภูมิร่างกายตั้งแต่37.3 องศาเซลเซียสขึ้นไป หรือ มีอาการอย่างน้อยหนึ่งอาการดังต่อไปนี้ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก ปัจจัยเสี่ยงมีประวัติเดินทางไปยัง หรือ มาจากต่างประเทศ ทุกเที่ยวบิน/ทุกช่องทางระหว่างประเทศมาตรการการกักกันกรณีตรวจไม่พบเชื้อกักกันตามมาตรการ อาการและอาการแสดงกรณีที่ 1 การเฝ้าระวังที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศอุณหภูมิร่างกายตั้งแต่37.3 องศาเซลเซียสขึ้นไป หรือ มีอาการอย่างน้อยหนึ่งอาการดังต่อไปนี้ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก ปัจจัยเสี่ยงมีประวัติเดินทางไปยัง หรือ มาจากต่างประเทศ ทุกเที่ยวบิน/ทุกช่องทางระหว่างประเทศมาตรการการกักกันกรณีตรวจไม่พบเชื้อกักกันตามมาตรการ อาการและอาการแสดง กรณีที่ 2 การเฝ้าระวังในผู้สงสัยติดเชื้อ/ผู้ป่วยกรณีที่2.1 ผู้สงสัยติดเชื้อที่มีอาการ ได้แก่อาการอย่างน้อยหนึ่ง อาการดังต่อไปนี้ให้ประวัติว่ามีไข้/วัดอุณหภูมิกายได้ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก ปัจจัยเสี่ยง 1) 14 วันก่อนวันเริ่มป่วย มีประวัติอย่างน้อยหนึ่งอย่าง ดังต่อไปนี้1.1) เดินทางไปยัง/มาจาก/หรืออยู่อาศัย ในประเทศที่มีการรายงานโรคในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา1.2) สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 20191.3) ไปในสถานที่ชุมนุมชน หรือสถานที่ที่มีการรวมตัวของกลุ่มคน เช่น ตลาดนัดห้างสรรพสินค้า สถานพยาบาล หรือ ขนส่งสาธารณะ ที่พบผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา1.4) ปฏิบัติงานในสถานกักกันโรค2) แพทย์ผู้ตรวจรักษาสงสัยว่าเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มาตรการการกักกันกรณีตรวจไม่พบเชื้อ - กักกันตามมาตรการในกรณี1.1) ทุกกรณี1.2) และ 1.3) กรณีที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของผู้ป่วยยืนยัน- กรณีอื่นๆ ดูแลรักษาตามแนวทางเวชปฏิบัติของโรคที่เป็น อาการและอาการแสดงกรณีที่2.2 ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ ปัจจัยเสี่ยงมีลักษณะอย่างน้อยหนึ่งอย่าง ดังต่อไปนี้1) อาการรุนแรง ใส่ท่อช่วยหายใจ หรือเสียชีวิต2) ไม่ทราบสาเหตุ หรือ หาสาเหตุไม่ได้ภายใน 48 ชั่วโมง3) แพทย์ผู้ตรวจรักษาสงสัยว่าเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มาตรการการกักกันกรณีตรวจไม่พบเชื้อดูแลรักษาตามแนวทางเวชปฏิบัติของโรคที่เป็น อาการและอาการแสดงกรณีที่ 3 การเฝ้าระวังในบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุขอาการอย่างน้อยหนึ่งอย่างดังต่อไปนี้ให้ประวัติว่ามีไข้/วัดอุณหภูมิกายได้ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้ กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก ปัจจัยเสี่ยงปฏิบัติหน้าที่ในสถานบริการสาธารณสุข เช่น โรงพยาบาล คลินิก โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) สถานที่ตรวจทางห้องปฏิบัติการ ร้านขายยา หรือเป็นสมาชิกทีมสอบสวนโรค หรือ ปฏิบัติงานในสถานที่กักกันโรค โดยพิจารณาตามความเหมาะสม มาตรการการกักกันกรณีตรวจไม่พบเชื้อดูแลรักษาตามแนวทางเวชปฏิบัติของโรคที่เป็น อาการและอาการแสดงกรณีที่ 4 การเฝ้าระวังผู้มีอาการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจเป็นกลุ่มก้อน ผู้มีอาการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจเป็นกลุ่มก้อน (cluster) ตั้งแต่ 5 รายขึ้นไป ในสถานที่เดียวกัน ปัจจัยเสี่ยงเป็นกลุ่มก้อนในสถานที่และ ช่วงสัปดาห์เดียวกัน โดยมีความเชื่อมโยงทางระบาดวิทยา มาตรการการกักกันกรณีตรวจไม่พบเชื้อดูแลรักษาตามแนวทางเวชปฏิบัติของโรคที่เป็น 29 มกราคม 2564